ขอให้ชาวนครพนม คัดค้านการนำเอาพระธาตุพนม ไปประดับบนยอดหลังคาอาคารด่านศุลกากรนครพนม ที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม

24 ก.ค. 2553

คน กับโลกกว้าง แต่ทางแคบ (ตอน 1)

              
          ค่ำวันเสาว์ที่ผ่านมาได้รับเชิญจาก จิ๊ด เพื่อนรุ่นน้อง ให้ไปทานข้าวสังสรรค์ที่บ้าน ในโอกาสเลี้ยงรับน้องสาวกลับจากอเมริกา    พอไปถึงบ้านจิ๊ดตามเวลานัด ก็พบกลุ่มของ แจง น้องสาวจิ๊ดกับแฟนเธอและเพื่อนชายหญิงคู่หนึ่งนั่งคอยที่ระเบียงริมน้ำหลังบ้าน  ส่วนจิ๊ดก็โผล่หน้ามากระซิบบอกให้จิบเบียร์กับทานกับแกล้มไปพลางก่อนเพราะอาหารยังทำไม่เสร็จ
แจง  - " พี่ สบายดีนะคะ  แหม้ หนูไม่ได้เจอพี่นี่ เกือบ 10 ปีได้ล่ะมั๊งตั้งแต่หนูเรียนจบ ก่อนจะไปนอกหนูก็ไปทำงานโรงแรมที่ภูเก็ตก่อน  แล้วไปเจอแฟนฝรั่งที่นั่น  คบดูใจกัน 2 เดือนเขาก็ขอแต่งงานและชวนไปอยู่อเมริกาด้วยกัน  หนูก็ฝันอยากไปเมืองนอกมานานแล้วก็เลยตัดสินใจไปกับเขา  อยู่ด้วยกันได้ไม่ถึงปีเค้าก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต  แต่โชคดีที่เขาทิ้งบ้านเงินประกันให้ใช้  หนูก็เลยตัดสินใจอยู่เรียนต่อเอาปริญญาสาขาใหม่อีกใบ  เพราะใบที่มีอยู่มันหางานยาก ก็เลยมีแค่กันหมาเห่า  และหนูก็เพิ่งจบเมื่อเร็วๆนี้เอง  ที่กลับมาเยี่ยมบ้านคราวนี้ก็ถือเป็นการฉลองปริญญาใบใหม่ด้วย  อ้อ นี่ เอ แฟนใหม่หนูคะเขาเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด  ครอบครัวเค้าเป็นคนกรุงเทพ  แต่อพยพไปอยู่ที่โน่นเกือบ 20 ปีแล้ว


 เราก็เพิ่งคบกันได้ไม่ถึงปี  ตอนนี้เค้าทำงานอยู่ที่ซีแอทเทิ้ล  และนี่เพื่อนหนู ตุ๊ยหนุ่ย กับ ตุ๊ยหมิ่ง เขาเป็นพี่น้องกัน เปิดร้านอาหารไทยที่ ทาโคม่า ใกล้ๆซีแอทเทิ้ล คะ  วันนี้พวกเราเพิ่งกลับจากไปเที่ยวหลวงพระบาง  มาถึงนี่เมื่อบ่ายนี้เอง "
ช่างเขียน  - " สวัสดีทุกๆคนครับ  พี่ก็สบายดีเหมือนเดิมนั่นล่ะ  เป็นไงหลวงพระบาง  เห็นว่าสวยมากใช่มั๊ย  พี่เองก็ยังไม่เคยไปเลย "



แจง  - " โอ  หลวงพระบางสวยมาก วิวเมืองลาวทั่วไปก็สวยหนูชอบมาก  นี่ยังพูดกับเพื่อนๆเลยว่าถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาเที่ยวอีก   เอ้า ตุ๊ยหนุ่ย  ตุ๊ยหมิ่ง แนะนำตัวเองให้พี่รู้จักซักหน่อย  เดี๋ยวเราจะได้คุยกันสนุก  "






ตุ้ยหนุ่ย  - " บ้านหนูเคยเปิดสวนอาหาร ตรงแถวถนนเพ็ชรบุรีตัดใหม่คะ  แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่โน่นกว่า 20 ปีแล้วคะ  หนูขี้เกียจเรียนก็จบแค่ไฮสคูล  ก็เลยมาทำร้านอาหารกับน้อง "
ตุ๊ยหมิ่ง  - " ผมหัวไม่ดีก็จบไฮสคูลเหมือนกัน  แต่กลับมาเรียนวิชาทำอาหารที่เมืองไทย  แล้วใช้ความรู้ที่ได้ มาทำงานเป็นกุ๊กที่ร้านตัวเองอยู่ทุกวันนี้ แหละครับ "
ช่างเขียน  - "  เออ  การที่แจงได้ไปเรียนเมืองนอก  มีข้อสังเกตุ  เปรียบเทียบความแตกต่าง  เรื่องการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยที่โน่นกับที่นี่ยังไงบ้าง ล่ะ  "
แจง  - " หนูก็เพิ่งรู้ว่า  ที่อเมริกาเขาเน้นเรื่อง โปรเฟสเซ่อร์ผู้สอนมาก  มากกว่าเรื่องความใหญ่โตสวยงามของอาคารสถานที่เสียอีก  คือ  เขาวางสัดส่วนของวุฒิผู้สอนไว้สูงมาก  กำหนดว่า  ผู้จบปริญญาเอกไปสอนวิชาหลักสำคัญๆนี่ต้องให้มีมากกว่า 60   ส่วนพวกจบโทตรีไปทำงานเป็นผู้ช่วยสอนไปเป็นพี่เลี้ยงนักศึกษานี่ รวมแล้วต้องไม่เกิน 40  แต่ที่หนูเคยเรียนในเมืองไทย  มีปริญญาเอกเพียงคนเดียวแถมยังไม่สอนอีกต่างหาก  แย่มาก แล้วทุกวันนี้เมืองไทยเรามีกฎเกณฑ์ในเรื่องนี้บ้างมั๊ยคะ  "
ช่างเขียน  - " พี่เคยอ่านบทความของฝรั่ง  เขาเขียนชมสติปัญญาความเก่งกล้าของคนไทยว่า  ที่เมืองไทยนั่นเรอะ แค่มีอาจารย์จบโท 9 คนเขาก็เปิดเป็นมหาวิทยาลัยได้แล้ว  พูดแล้วอาย  ไอ้เรื่องสัดส่วนวุฒิของผู้สอนในเมืองไทยเรา  ฟังเขาว่า  ก็มีสัดส่วนตั้งแต่ 10 -80 - 10 สำหรับมอใหม่ๆของรัฐ หรือ ที่เราๆชอบพูดแดกดันว่า มหาลัยชั้นสาม ก็ขึ้นไปจนถึง 30 - 60 - 10 ในระดับมอแถวหน้าเช่น จุฬา มหิดล สงขลาฯ  แต่เขาว่าทุกวันนี้แม้กระทั่งจุฬาที่มีงบมากกว่าทุกสถาบันก็ยังทำไม่ได้เลย  เหตุก็เพราะทางเอกชนเขาให้เงินเดือนพวกด็อกเตอร์มากกว่าหน่วยงานของรัฐตั้ง 2-3 เท่า  ก็ลองคิดดูว่า  ในเมื่อเมืองใหญ่ก็เป็นยังงี้แล้วทางต่างจังหวัดจะหาได้ยากแค่ไหน  "
แจง  - "  เออ อีกเรื่องนึงที่หนูงงมากเลย  คือ  ทำไมฝรั่งเขาถึงเลือกกรุงเทพและเชียงใหม่เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดอันดับ 1 - 2 ของโลกในปีนี้ล่ะคะ  ทั้งที่ข่าวความไม่สงบวุ่นวายในกรุงเทพก็ดังขึ้นหน้าหนึ่งของโลกตั้งหลายสัปดาห์  แถมที่เชียงใหม่ก็เรื่องความรุนแรงเหมือนกัน ล่ะพี่ "


ช่างเขียน  - " ก็ทางฝ่ายนิตยสารผู้จัดการประกวดเขาเก็บผลโหวตเอาแค่เดือนมีนาคม  แต่เหตุประท้วงมันรุนแรงเอาในเดือนเมษายนใช่มั๊ย  งานนี้กรุงเทพและเชียงใหม่ก็เลยรอดตัว ไงล่ะ "



แจง  - " คนโหวต เค้ามีเกณฑ์ตัดสินจากอะไรคะ เพราะหนูก็เห็นว่าเมืองอื่นเขาก็มีพอๆกัน " 
ช่างเขียน  - " อ้อ ก็มีอยู่ 6 ข้อ คือ เรื่องความสวยงาม  กรุงเทพเชียงใหม่ก็ผ่าน  เรื่องประเพณีศิลปวัฒนธรรม  เราก็ได้  ยิ่งเรื่อง อาหารการกินนี่  เป็นที่ร่ำลือเลยเชียว  เรื่องแหล่งช็อปปิ้ง  ทั่วโลกเขาก็ยกให้กรุงเทพเป็นสวรรค์ของนักช็อป  แล้วเรื่องความเป็นมิตร  คนไทยก็กินขาดในเรื่องน้ำใจไมตรี  ที่สำคัญข้อสุดท้ายก็คือ กรุงเทพเชียงใหม่ มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ "











แจง  - "  แล้วเมืองนครฯของเรา  แถวรอบนอกเขามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างใหมคะ  แล้วพี่คิดว่าอีกนานมากมั๊ยที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้เหมือนเขาบ้าง  ให้มีคนมาเที่ยวมากๆ  "
ช่างเขียน  - " ก็เหมือนเดิม  แต่ความสะดวกก็มีมากขี้น  เดี๋ยวนี้ไปเที่ยวตามอำเภอรอบนอก  จะมีร้านขายของสะดวกซื้อแทบทุกหมู่บ้าน  แต่โอกาศที่บ้านเราจะพัฒนาไปถึงจุดที่พูดนั้น  ก็ยาก  ต้องตายแล้วเกิดใหม่อีกหลายรอบ เชียวล่ะ "
แจง  - " เพราะอะไรคะ  แล้วที่พวกเสื้อแดงพูดถึงอำมาตย์ 2 มาตรฐาน ความเหลื่อมล้ำ  มันเกี่ยวข้องกับการพัฒนาบ้านเมืองมั๊ยคะ พี่ "
ช่างเขียน  - " การพัฒนาบ้านเมืองนี่  มันต้องเดินไปด้วยกันทุกภาคส่วน  ตั้งแต่ข้าราชการ นักการเมืองและประชาชน  แต่เมืองไทยมันมีปัญหาที่คนและระบบ  ความไม่ทั่วถึงของงบประมาณ  โดยเฉพาะทางอีสานบ้านเรา จะเห็นว่า ฝ่ายข้าราชการเขาก็จะก้มหน้าก้มตาทำแต่งานของเขา  ส่วนนักการเมืองก็คิดแต่จะหาผลประโยชน์เข้าตัว  ไม่มีใครคิดถึงประชาชนเลย  ก็ถูกของพวกเสื้อแดงเรื่องนึงที่คิดจะโค่นล้มอำมาตย์ ถ้าเขาตีความหมายของอำมาตย์ว่า คือ  ข้าราชการ ตำรวจ ทหารที่เป็นคนไม่ดีนะ   แต่เผอิญมันไม่ใช่ เพราะผู้อยู่เบื้องหลังพวกเสื้อแดงเขาเขามองสูงกว่านั่นมากจนคนทั้งประเทศเขาตกใจ  แผนการเสื้อแดงก็เลยเจ๊งไงล่ะ  "
จิ๊ด  - "  พี่ขา  อาหารเสร็จแล้วขอเชิญข้างในคะ  แจง พวกเราด้วย ลุกมาเร้ว  "
ช่างเขียน  - " เอ้า  เชิญๆพวกเรา  ได้เวลาอาหารแล้ว  เดี๋ยวเรากินไปคุยไปต่อก็ได้นะ "
จบ ตอน 1  สวัสดีครับ