เมื่อพวกเราเข้าไปในบ้าน จิ๊ด จัดโต๊ะอาหาร 2 ตัวต่อกันที่ห้องโถงหน้าบ้าน มีเก้าอี้ 12 ตัวและบนโต๊ะมีเตาหมูกะทะ 2 ชุดกับจานอาหารหลายอย่าง
ช่างเขียน - เอ้า จิ๊ด จัดโต๊ะยาวอย่างนี้ แสดงว่ายังจะมีแขกมาเพิ่มอีก รึ
จิ๊ด - คะ ก็วันนี้ พี่หน่อย แฟนหนูเขามีข่าวดีได้ย้าย ก็เลยชวนพรรคพวกมาร่วมฉลองด้วย ตอนนี้กำลังเดินทาง พี่ขา วันนี้หนูจัดหมูกะทะเป็นตัวชูโรงนะคะ แต่ก็มีกับแกล้มรสแซ่บๆถูกใจคอเบียร์ มาเสริมอีกหลายอย่างคะ
"หน่อย" แฟนของจิ๊ดทำงานเป็นปลัดที่ อบต.แถวๆกาฬสินธุ์ทำงานอยู่หลายปี ตอนนี้กำลังทำเรื่องขอย้ายกลับมาอยู่ใกล้ๆบ้าน
ช่างเขียน - ดีจ๊ะ เอ้า พวกเราช่วยกันเอาผัก เอาหมูลงกะทะ
แจง - น่ากินจัง พี่จิ๊ด ยำทะเล ไก่อบ ส้มตำปูก็มี ของโปรดหนูเลย เห็นสีส้มตำแล้วท่าทางจะเผ็ดมาก ตุ๊ยหนุ่ย ตุ๊ยหมิ่ง ทานเผ็ดได้ มั๊ย
ตุ๊ยหนุ่ย - ได้จ๊ะ แต่ตุ๊ยหมิ่งคงไม่ไหว
ตุ๊ยหมิ่ง - ผมกินเผ็ดสุดๆ ก็พริกเม็ดเดียวครับ
แจง - จริงๆ พวกเรากินของขบเคี้ยวจากข้างนอกก็อิ่มได้ครึ่งท้องล่ะมั๊ง แต่เห็นอาหารแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกอยากกินขึ้นมาอีก
ตุ๊ยหนุ่ย - พี่คะ ส้มตำปู นี่ เป็นสูตรอาหารอีสานแท้ๆมั๊ยคะ
ช่างเขียน - ไม่ใช่ อีสานแท้ๆก็ส้มตำปลาร้า ไอ้พวกตำแตง ตำซั่ว ใส่โน่นใส่นี่ มันประยุกต์ตามยุคตามนิยม ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นสมัยราวๆ 40 - 50 กว่าปีก่อนที่คนอีสานอพยพเข้าไปหาทำงานในกรุงเทพมากๆ ในตอนนั้นเริ่มมีร้านส้มตำไก่ย่างแบบอีสาน ขายแข่งกับส้มตำไก่ย่างของคนกรุง คนอีสานกลัวว่าคนกรุงจะไม่นิยมกินส้มตำปลาร้า ก็เลยดัดแปลงใส่นั่นนี่ให้มีเลือกหลายแบบซึ่งก็ได้รับความนิยมขึ้นมา คล้ายกับคนไทยทำอาหารไทยให้ฝรั่งกิน ก็ต้องลดความเผ็ดและสัดส่วนเครื่องปรุงลงให้เขากินได้
ตุ๊ยหมิ่ง - แล้วชาวบ้านทั่วไปที่นี่ เขานิยมทานข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวครับ
ช่างเขียน - ข้าวเจ้าสิ เป็นส่วนใหญ่ ก็ด้วยอิทธิพลของหม้อหุงข้าวไฟฟ้าไง สะดวก ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา แถมกินร้อนได้ตลอดเวลา ข้าวเจ้าลิตรนึงกินได้ทั้งบ้าน ส่วนการหุงข้าวเหนียวต้องใช้หลายลิตรและยุ่งยากกว่า ที่สำคัญคือ ข้าวเหนียวถ้าไม่ร้อนก็แข็งกินไม่อร่อย
เอ - วัยรุ่นตามหมู่บ้านรอบนอกเขาชอบฟังลูกทุ่ง หมอลำอะไรแบบนี้มั๊ยครับ
ช่างเขียน - เดี๋ยวนี้ไม่เลย วัยรุ่นกรุงเทพฟังอะไร ที่นี่เขาก็ชอบแบบนั้น อย่างบอดี สแลม โปเตโต้ หรือ ริทแมนทอย อะไรแบบนี้
เสียงรถยนต์ขับเข้ามาในบ้าน พร้อมกับมีเสียงเปิดปิดประตูรถ
จิ๊ด - พี่หน่อย มาถึงแล้ว
ชั่วอึดใจ ก็เห็น หน่อย แฟนจิ๊ด เดินนำหน้าชาย 3 หญิง 1 เดินหิ้วถุงพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง
หน่อย - หวัดดีพี่ใหญ่ เอ้าพวกเราหวัดดีพี่เขา
ช่างเขียน - สวัสดีทุกๆคน เชิญๆนั่งครับ
หน่อย - จิ๊ด เอาพวกนี้ไปใส่จาน ผมไปแวะซื้อของอร่อยที่กาฬสินธุ์มาเพิ่มอีก ก่อนอื่นผมขอแนะนำพวกน้องๆให้พี่รู้จักครับ นี่ศักดิ์กับจิ๋ม เป็นแฟนกันอยู่การเงินที่ อบต. นี่ หมู ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มปริญญาโท คนนี้มุขเยอะบ้านอยู่ใกล้กัน นี่ผู้หมวดแป๊ะ รูปหล่อคนเมืองเพ็ชรฯ พอเรียนจบก็ลงมาบรรจุที่กาฬสินธุ์เป็นที่แรกเลย ก็อยู่มา 2 ปีแล้วสาวๆติดตรึม โรงพักก็อยู่ติดกันกับที่ทำการ เรากินข้าวด้วยกันประจำ เออ ให้แจงแนะนำเพื่อนจากเมืองนอกให้รู้จักด้วย
แจง - แจง เป็นน้องพี่จิ๊ดคะ และนี่ เอ แฟนแจง และนี่ คุณตุ๊ยหนุ่ย กับคุณตุ๊ยหมิ่ง เป็นพี่น้องกันเปิดร้านอาหารไทยที่อเมริกา คะ
ช่างเขียน - วันนี้ จิ๊ด เขาเตรียมทั้งวิสกี้และเบียร์ แต่วันนี้เบียร์เย็นถูกใจดีเหลือเกิน ใครจะรับเบียร์เหมือนผมบ้าง

หน่อย - คงมีหมวดแป๊ะ คนเดียวที่ชอบเบียร์ นอกนั้นวิสกี้ เอา พวกเราลองหมูกะทะฝีมือแฟนผมหน่อยซิ
จิ๋ม - หมูนุ่มอร่อยคะ
ศักดิ์ - ยำก็แซ่บดีครับ
ช่างเขียน - เอ ผู้หมวด ขอถามหน่อยที่มาทำงานที่อีสานนี่ เราเลือกเองหรือจับสลากได้ครับ
หมวดแป๊ะ - เลือกเองครับ ผมชอบภาคอีสานและฟังภาษาอีสานได้นิดหน่อย เพราะตอนเล็กๆเคยอยู่อีสานกับคุณพ่อซึ่งเป็นตำรวจเหมือนกัน ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนว่าเราเป็นคนท้องถิ่นนะ แต่ตอนนี้อยู่มา เกือบ 2 ปีแล้วก็ยังรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าอยู่ ที่ยังรู้สึกแปลกๆ ก็คือ ตำรวจต่างจังหวัดนี่เขานินทากันเก่งมาก
ตุ๊ยหนุ่ย - เหรอคะ นึกว่าจะเป็นแต่พวกผู้หญิง แล้วมีตำรวจหญิงออกมาทำงานต่างจังหวัดบ้างมั๊ยคะ
หมวดแป๊ะ - อันนี้ไม่ทราบครับ
หมู - ขอถามเชาวน์กับคนอยู่เมืองนอกหน่อย คุณตุ๊ยหนุ่ย ทราบใหมครับว่า มีผู้หญิงคนนึงจับผู้ร้ายเก่งกว่าตำรวจ ผมให้เวลาคิด 1 นาที
ตุ๊ยหนุ่ย - ไม่ทราบจริงๆ มีใครรู้บ้างล่ะ
ตุ๊ยหมิ่ง - รู้แล้ว ผูู้หญิงคนนี้ไม่เคยแก่เลยใช่มั๊ย
หมู - ใช่
ตุ๊ยหมิ่ง - เธอชื่อ ละม่อม ใช่มั๊ย
หมู - เออ เก่ง ถูกต้องแล้วครับ แล้วรู้ได้ไงครับ
ตุ๊ยหมิ่ง - ที่โน่น เราก็ดูข่าวเมืองไทยผ่านดาวเทียม ทุกวันก็มักได้ยิน " จับคนร้ายโดยละม่อม " อยู่เป็นประจำครับ
หมู - ยังมีคนเก่งกว่าคุณละม่อมอีก คราวนี้เป็นผู้ชาย แทบจะไม่ต้องออกแรงเลย
เอ - คุณจำนน ใช่ใหมครับ " ผู้ร้ายยอมจำนน "
หมู - ถูกต้อง เก่งจัง เอ้อ ผมนึกว่าคนอยู่เมืองนอกจะไม่ค่อยรู้อะไรแบบนี้ สรุปว่าผู้หญิงผู้ชายคู่นี้เก่งกว่าตำรวจ แล้วตำรวจเรามีเรื่อง อะไรที่เก่งมั่งล่ะ
จิ๋ม - จับหมวกกันน็อคไง พี่ใหญ่คะ ลูกหนูเรียนในเมืองกาฬสินธุ์ เมืองนี้พวกตำรวจชอบตั้งด่านตรวจจับใบขับขี่หมวกกันน็อคแทบทุกวัน ลูกหนูถูกจับเป็นประจำ เดือนๆนึงเสียเป็นพัน ลูกหนูไม่ได้ขับรถเร็ว หมวกก็ใส่ ขาดแต่ใบขับขี่ ก็อายุ 15 - 16 เอง ขี่รถมาดีๆก็โบกให้หยุด ตำรวจก็น่าจะรู้ว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีใบขับขี่ แต่เขาก็ไม่งดเว้น ตอนนั้นตำรวจกาฬสินธุ์เป็นข่าวดังหน้าหนึ่งเลย พูดตรงๆหนูเกลียดพวกจราจรเป็นที่สุด
การตั้งด่านตรวจ ไม่ติดป้ายให้ถูกต้องตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หน่อย - กฏหมายมีเบาไปหาหนัก จะปรับก็ได้ แต่จราจรเขาคงทำตามนายสั่ง มากกว่าจะทำตามกฏหมาย นี่ก็คงเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่คนเขาอยากปฏิรูปตำรวจ
เอ - การตั้งด่านตรวจบนถนนที่อเมริกานี่เป็นเรื่องยากนะครับ เพราะการทำให้ประชาชนเดือดร้อนเกิดความไม่สะดวกในการสัญจรนี่เขาฟ้องได้ เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นจริงๆเช่น กรณีที่มีผู้ร้ายแหกคุก ปล้นธนาคาร หรือ ตรวจจับพวกหลบหนีเข้าเมือง หรือ ตรวจจับขบวนการขนยาเสพติด และตำรวจต้องอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมอาวุธครบในมือ
ช่างเขียน - สู้พี่ไทยไม่ได้ ตำรวจฝรั่งถืออาวุธ ตำรวจไทยถือใบสั่ง แถมการตั้งด่าน นึกอยากตั้งก็ตั้ง ก็อีแค่มือข้างนึงถือแฟ้มใบสั่ง อีกมือก็ลากป้ายสามเหลี่ยมมาตั้งกลางถนนก็จบ พอจับได้หนำใจแล้วก็เอาเงินรางวัลไปแบ่งกัน จนพวกสื่อญี่ปุ่นเอาไปเขียนว่า ประเทศไทยมีการตั้งด่านเพื่อตรวจใบขับขี่ฟุ่มเฟือยที่สุดในโลก ความจริงแล้วของเราก็มีกฏหมายมีระเบียบเหมือนๆกับฝรั่งเขานั่นแหละ ไม่งั้นคนต่างชาติจะกล้าใช้ใบขับขี่สากลมาขับรถในเมืองไทยได้อย่างไร เพียงแต่ว่าตำรวจไทยไม่ค่อยชอบทำอะไรให้มันถูกต้อง ชอบทำอะไรที่มักง่ายให้คนเขาเกลียด เขาด่า
ตุ๊ยหมิ่ง - พี่พูดยังงี้เหมือนตำรวจเราด้อยพัฒนาล้าหลังนะ ฟังแล้วผมอายแทนคนไทย พูดถึง การใช้อำนาจของตำรวจที่โน่น เขาจะดูความปลอดภัยเอาไว้ก่อน โดยมีหลักที่ว่า " กันดีกว่าแก้ " คือ ถ้าเขาพบว่าใครขับรถเร็วหรือขับรถส่ายไปมาน่าหวาดเสียว ถ้าปล่อยให้ขับต่อไปก็อาจทำให้คนอื่นมีอันตรายได้ ถ้าเกิดมีลักษณะแบบนี้ เขาถึงจะโบกให้หยุด เพื่อตรวจอัลกอฮอล์ หรือขอดูใบขับขี่ก่อนออกใบสั่ง แต่ถ้าเขาขับรถมาดีๆ แล้วตำรวจไปโบกให้หยุดรถโดยไม่มีเหตุผล ถ้าโดนร้องเรียนแล้วอาจถูกสั่งพักงานได้
ศักดฺ์ - ผมเคยอ่านบทความ ที่มีคนเสนอให้โอนงานจราจรไปให้องค์กรปกครองท้องถิ่นเขาดูแลแทนตำรวจ พี่เคยเห็นผ่านตาใหมครับ แล้วพี่คิดว่าเขามีเหตุผลอะไร
ช่างเขียน - เคยอ่าน เขาก็มีเหตุผลที่ว่า ตำรวจจราจรรักษากฏหมายจราจรไม่ได้นะสิ ก็ลองคิดดูง่ายๆ อย่างที่สนามบินสุวรรณภูมิไม่มีเวลาเปิดปิด ก็เพราะ มีเครื่องบินขึ้นลงตลอด 24 ชั่วโมง ทางสนามบินเขาก็ต้องมีพนักงานอยู่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลาเหมือนกัน อย่างที่โรงพยาบาลเขาต้องมีหมอพยาบาลคอยบริการคนไข้ทั้งในเวลาราชการและหลังเวลาฯ ก็เพราะ เรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยนี่มันห้ามกันไม่ได้ แล้วบนถนนที่ยาวเป็นสิบเป็นร้อยกิโล แถมยังมีรถวิ่งทั้งวันทั้งคืนนี่ ใครจะดูแลได้ เพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่า จราจรเขาก็ทำงานตามเวลาราชการ 8 โมงเช้าออก 5 โมงเย็น ถ้าให้จราจรทำหน้าที่ต่อไป ก็จะต้องโดนกล่าวหาว่าละเว้นหน้าที่ เรื่องโอนงานนี้ไปให้ท้องถิ่นเขาดูแลแทนตำรวจนี่ พี่ก็เห็นด้วยนะ เพราะทางท้องถิ่นเขาพร้อมทั้งเงินทั้งคน
เอ้า เห็น แจงกับเพื่อนๆหาวกันใหญ่แล้ว พี่ว่าไปพักผ่อนเถอะวันนี้ก็นั่งรถมาทั้งวันแล้วนะ ส่วนพี่ก็จะขอตัวกลับเหมือนกัน แจง วันนี้กับข้าวอร่อยทุกอย่างขอบคุณมาก หน่อย พี่กลับก่อนนะ หมวดแป๊ะถ้ามีโอกาสมานครฯอีก ก็โทรบอกด้วย ลาแล้วนะ สวัสดีทุกๆคน
อยากไปเร็ว ก็ให้รีบไป อยากไปไกล ให้รอไปด้วยกัน
จับตา สามยาม