ขอให้ชาวนครพนม คัดค้านการนำเอาพระธาตุพนม ไปประดับบนยอดหลังคาอาคารด่านศุลกากรนครพนม ที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม

27 ธ.ค. 2553

Ars Longa Vista Brevis " ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น "


               เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ช่างเขียน ก็ได้เข้ากรุงเทพไปประชุมวิชาการกับสภาสถาปนิกเขา ซึ่งในตอนท้ายของการประชุม  ที่เป็นช่วงการเปิดโอกาศให้ผู้ร่วมประชุมได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นในเรื่องปัญหาต่างๆ ในครั้งนี้  ช่างเขียน ก็มีโอกาศได้พูดในที่ประชุมด้วยถึง เรื่อง จรรยาบรรณต่อสาธารณะ ( ไม่ใช่ผู้ว่าจ้าง ) กับงานออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนม


ยอดของหลังคาอาคารด่านศุลกากรนครพนม ออกแบบเป็น " กุฏาคาร หรือ เรือนยอด " 
มีปลียอด ของเรือนยอดเป็นรูปทรงพระธาตุพนม


กุฏาคาร หรือ เรือนยอด  เป็นรูปแบบของส่วนต่อยอดของหลังคา
ที่มีธรรมเนียมการใช้ในงานสำหรับพระมหากษัตริย์ และ ศาสนา เท่านั้น

โดย " ฐานานุศักดิ์ " ทางสถาปัตยกรรมไทยแล้ว  อาคารสาธารณะอย่างนี้
ถึงจะเป็นงานระดับชาติ ของหน่วบงานราชการ  ก็ไม่มีสิทธิ์จะใช้ " กุฏาคาร "


เป็นไปได้ใหมว่า " นี่จะเป็นแบบอย่าง " ให้ที่อื่น นำสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประดับอาคารได้


เม็ดบัวหัวเสา  ที่เสาใหญ่ขนาบข้างสะพาน  เป็นรูปทรงพระธาตุพนม
ไม่รู้จะตั้งใจ  ให้ผู้คนที่ผ่านสะพาน  ต้องยกมือไหว้ พระธาตุพนม หรือ สะพาน กันแน่
ถ้าเกิดเศรษฐีหรือคนมีสตังค์ จะทำอย่างนี้บ้าง  ถามว่า จะมีใครห้ามได้ใหม  ?






ส่วนยอด หรือ " เรือนยอด " ของอาคารเจ้าปัญหา  จะแก้ก่อน หรือ จะทุบทีหลัง


ทรวดทรงแหลมที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆขององค์พระธาตุพนม  มีสัดส่วนที่ลงตัวและงดงามจริงๆ 
การจะนำไปใช้งานใดๆก็ตาม  ก็ต้องเพื่อการเคารพสักการะ ไม่ใช่เพื่อการประดับตกแต่ง

  
             ว่า การที่ผู้ออกแบบนำเอาพระธาตุพนมซึ่งเป็นสิ่งเคารพศักดิ์สิทธิ์มาใช้ประกอบเป็นยอดอาคารเพื่อความสวยงาม มากกว่าเพื่อการสักการะนั้น  เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมบังควร จะกระทบอย่างรุนแรงกับความรู้สึกของชาวพุทธทั้งหลายและได้เสนอแนะให้ฝ่ายจัดการก่อสร้างฯเขาต้องแก้ไขอะไรยังไงไปแล้วแต่เรื่องก็เงียบ  เลยมาฝากเรื่องให้ สภาสถาปนิกและสมาคมสถาปนิกสยามช่วยตรวจสอบและติดตามเรื่องนี้ให้รีบด่วนด้วยก่อนจะสายเกินแก้  เพราะแก้วันนี้ก็ยังถูกกว่าไปแก้ในวันหน้า  แถมค่าใช้จ่ายในการแก้ไขต้องไม่ใช่เงินภาษี  แต่มันต้องเป็นเงินของผู้รับเหมาเองเพราะรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยเขาเสนอให้แก้ไขมาแต่แรก และเรื่องนี้มันต้องรีบๆก่อนที่จะสายเกินแก้  
              พูดก็พูดเถอะ  บ้านเมืองเรามันจะอยู่ได้ยังไง  ถ้ามีใครซักคนคิดจะทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่ได้คำนึงถึงระเบียบแบบแผนอันดีงามของสังคม  ที่จะนำมาซึ่งผลกระทบความเชื่อความศรัทธาและอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านเมือง


ที่ทำการ สภาสถาปนิกแห่งประเทสไทย ถนนพระราม 9 กทมฯ



ลงทะเบียนรับ พวต. หลังการประชุม




ประชุมเสร็จ



 เมื่อเสร็จการประชุมเรื่องเครียดๆแล้ว ก็บังเอิญไปเจอเพื่อนรุ่นน้องสมัยเรียนกลุ่มหนึ่งเข้า ด้วยนานทีปีหนจะได้เห็นหน้า  ก็เลยชวนกันไปหาที่นั่งคุยต่อ  แต่เนื่องด้วยสถานที่ประชุมอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์  สามารถไปได้ไกลกว่านี่  ก็เลยขึ้นรถไฟฟ้าฯไปลงย่านราชประสงค์เพื่อเลือกหาร้านเก๋ๆนั่งจิบกาแฟคุยกันดีกว่า



สถานีมักกะสัน




ขึ้นรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ ที่สถานีรามคำแหง  ไปลงสยาม


รถด่วนเอ็กซ์เปรสผ่านหน้า  สายนี้วิ่งตรงจากสุวรรณภูมิไปถึงพญาไทไม่จอดแวะ



ภายในรถแอร์พอร์ตลิ้งค์


สยามพารากอน  


ลานทางเดินด้านหน้า  สยามพารากอน  แต่งได้สวยงามเพื่อรับเทศกาลพิเศษ  


วันนี้อากาศดี  ท้องฟ้าแจ่มใส  ไม่มีฝน









ภายในสยามพารากอน  เย็นฉ่ำหรูหราสวยงาม




       เมื่อหาดูร้านที่มีคนน้อยและเงียบได้ถูกใจ  ก็แหมะก้นให้รากงอก แล้วมาถกกันต่อเรื่อง พระธาตุพนมที่หลังคาอาคารด่านศุลกากรมนครพนม  เพราะโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ  อีกอย่างกลุ่มนี้เคยวิสัชนาเรื่อง " อุจจาระสุนัขก้อนนิดเดียว " ก็ข้ามคืนไปอีกวัน  แล้วงานใหญ่อย่างนี้  จะแค่ไหนก็ไม่อาจคาดเดา





น้อย   สถาปนิกจากนครศรีฯ    " ถ้ามีคนออกแบบเอา พระบรมธาตุฯไปตั้งบนยอดหลังคาสถานที่ราชการเพื่อเป็นขวัญกำลังให้พนักงานฯ แบบนี้  ผมก็เอาตายเหมือนกัน พี่  มันคิดได้ไง แล้วเอาอะไรคิดน้อ  "
ขจร   สถาปนิกฝั่งธนฯ    " ผมเชื่อว่า  คงไม่มีใครกล้าเอาพระปรางค์วัดอรุณไปแหมะบนยอดตึกเหมือนกัน  ใครคิดได้แบบนี้  ผมว่ามันทั้งบ้าทั้งโง่และเสียสติ ครับ "
หนุ่ม  สถาปนิกเมืองเหนือ  " ถ้ามีคนแอบเอาพระธาตุดอยสุเทพ  ไปใช้ในลักษณะนี้  ผมจะยื่นเรื่องต่อสภาสถาปนิก ให้ถอดถอนใบอนุญาตฯ ของมันเลยล่ะ  "
ติ๊ก   สถาปนิกชาวคริสต์เตียน  "  ผมอ่านเอกสารของพี่แล้ว  คิดว่าคนออกแบบระดับนี้  เขาน่าจะแยกแยะออกนะ ระหว่าง สิ่งเคารพ กับ สัญลักษณ์ของจังหวัด พี่ว่าคนออกแบบเขาจบรุ่นไหนและเป็นยังไงครับ "


ช่างเขียน    " เห็นหน้าตาแล้ว คงไล่เรี่ยกับพวกเรานั่นแหละแต่ไม่รู้ว่าจบที่ไหน  ในเบื้องต้นนี่ พี่ว่าเขาคงไม่ใช่ไทยพุทธนะ ต่อมาเมื่อได้ฟังเขาดีเฟนด์  ความคิดและเหตุผลในการออกแบบของเขาแล้ว  รู้สึกว่า  เขามีจินตนาการมากเกินข้อเท็จจริง นอกจากการถือวิสาสะใช้พระธาตุพนมแล้ว  ก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรที่เกี่ยวข้องกับนครพนมหรืออีสานเลย  ไม่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่นแม้แต่น้อย  อาจจะพูดได้ว่า  เขาอยากอวดความเก่งกาจของเขามากกว่าที่จะทำอะไรเพื่อชาวนครพนม "
หนุ่ม  " ผมเห็นด้วยกับพี่นะครับ  ที่เขาอ้างว่า  ได้ความคิดจากวัดอีสานทางเหนือ  แต่อาจจะเหนือเลยอีสานไกลไปจนถึง เชียงใหม่และหลวงพระบางโน่น  เหมือนว่า  เขากล้าสะ-ตอกับพี่นะ  แล้วคิดว่า ข้ออ้างเหตุผลแค่นี้ จะรอดมือพี่ เรอะ  "
ช่างเขียน    "  ก็ร้องเรียนไปถึงผู้ว่า ฯ เกือบปีแล้วแต่เรื่องก็เงียบ  แต่ตอนนั้นแกไม่สบายจริงๆ  เลยให้รองผู้ว่าฯ ปฎิบัติหน้าที่แทน  เออ รองผู้ว่าฯ คนนี้เขาเรียนสวนกุหลาบรุ่นเดียวกับ ไอ้หมา เพื่อนพี่นะ จำได้ใหม  "
น้อย     " อ๋อ พี่หมา วัฒนาฯ จำได้ครับ  พูดถึงเด็กสวนฯ จริงแล้วก็มีคนเก่งหลายคน  แต่ในวันนี้ หลายคนก็มีความคิดน่ากลัว และมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อความสงบสุขของบ้านเมือง  "
ขจร    "  เฮ๊ย ไอ้น้อย นี่เอ็ง กำลังจะลากพี่เขาเข้าเรื่องการเมืองแล้ว  แต่พี่คุยเรื่องการเมืองได้มั๊ยครับ  "
ช่างเขียน  "  ได้สิ  "



ติ๊ก  "  เรื่องการเมืองนี่  พี่สีอะไรครับ  "
ช่างเขียน  "  พี่มี 3 สี  ไม่ชอบสีเดียวโดดๆไม่ว่าจะสีอะไร  พวกเราก็รู้เรื่องทฤษฎีสีดีนี่ การเล่นแม่สีแท้ๆที่มี 3 สี น้ำเงิน เหลือง แดงนี่ ใช้สีเดียวมันแรงไปต้องมีคู่สีด้วยถึงจะลงตัว จริงมั๊ย  ว่าแต่พวกเราเหอะ มีใครเล่น " สงครามสี " กะเขาบ้าง  "
น้อย  "  โอ๊ย  ไม่มีหรอกครับ  พวกเราแค่ชอบติดตามข่าวการเมือง  แต่ไม่ได้คิดจะฝักใฝ่หรืออยากไปร่วมชุมนุมอะไรกับใคร  เพราะเรามีสมองของเราเองคิดเองได้  ไม่ต้องไปเชื่อไปฟังใครที่ไหนก็ไม่รู้หน้าตาโจรๆ  ที่สำคัญคือ  มันเสียเวลาทำมาหากิน  ยิ่งหมู่นี้คนก็ตกงานอยู่บ่อยๆ  "
ขจร  "  ผมเคยไปกินข้าวบ้านเพื่อนโรงเรียนเก่าครั้งนึงเมื่อเร็วๆนี้  โอ้โฮ ก็เพิ่งรู้ว่า เดี๋ยวนี้มันแดงกันทั้งบ้าน  กินข้าวไป  ก็ด่าไป  เขาด่าหมดครับ ครบทุกสถาบันสำคัญ  ผมสังเกตุดูหน้าตาคนบ้านนี้  ตอนที่เขาด่านี่  มันดูซีเรียท ถมึงถึงเอาเป็นเอาตาย  น่ากลัวครับ  คิดว่าบ้านนี้ผมจะไม่ไปเหยียบอีกแล้ว  มันคนละรสนิยมจริงๆ  "



น้อย  "  ผมไม่เข้าใจการเรียกร้องของเขา เรื่องประชาธิปไตย และ เรื่อง 2 มาตรฐานครับ พี่ "
ช่างเขียน  "  พวกที่พูดถึงเรื่องประชาธิปไตยนี่ คือ เขาไม่ชอบการปฎิวัติของทหาร   ส่วนพวกที่พูดเรื่อง 2 มาตรฐานนี่ เขาต้องการให้กระทบระบบระบอบของประเทศเผื่อว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง  แปลกที่เขาไม่ได้บอกว่ามาตรฐานใดที่เขาต้องการ ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว  ชีวิตของคนเรานี่ มีมากมายหลายมาตรฐานไม่เท่ากันขึ้นกับการกระทำของแต่ละคน  เพราะถึงจะเกิดตายเหมือนกัน  แต่ความดีเลวโง่ฉลาดเก่งห่วยก็ไม่มีทางเท่ากัน  ดูตัวอย่างฟุตบอลไทยที่กำลังฮ็อตฮิทในวันนี้  เห็นข่าวการชกกันหรือการทำร้ายกันของนักบอลกับนักบอล กองเชียร์กับกองเชียร์  กองเชียร์กับกรรมการแล้ว ก็ไม่อยากพูดถึงมาตรฐานการไปฟุตบอลโลกเลย  เอาเป็นว่า  มาตรฐานแบบนี้  ก็ต้องเตะอยู่แต่ในบ้าน  อย่าได้คิดทำอะไรที่เกินมาตรฐานของตัวเองเลย พูดแล้วอายแทนคนพวกนี้  "



หนุ่ม  "  ข่าวทีวีที่ผมไม่อยากดูเลย ก็คือเรื่อง คนไทยทำร้ายกัน ฆ่ากันเอง เช่น เด็กช่างกลอาชีวะยกพวกตีกันฆ่ากัน พวกเชียร์บอลยกพวกตีกัน และ เรื่องชุมนุมของพวกเสื้อแดง  รู้สึกน่ากลัวยังไงบอกไม่ถูก  ตำรวจไทยเราก็ใช้ไม่ได้  เป็นแตงโม  มะเขือเทศไปหมด  "
ติ๊ก  " ฝั่งธนฯ นี่เป็นพื้นที่ของเขาเลยล่ะ  แต่คนไม่เอาแดงนี่ก็เยอะนะครับ  เพียงแต่เขาไม่อยากไปยุ่ง  "
หนุ่ม  "  ที่บ้านพี่  พวกแดงมีอิทธิพลมากขนาดดิ้ดนิ้วสั่งได้ใหมครับ  เห็นแกนนำเคยประกาศว่า  ชุมนุมใหญ่คราวนั้นจะมีคนอีสานเข้ามาชุมนุมเป็นล้าน  "


สัจธรรมของความดีงาม          "  ศิลปยืนยาว  ชีวิตสั้น  "


สัจธรรมบาปบุญ  " มนุษย์เกิดมาเพื่อใช้กรรม ใครมีกรรมมาก มันก็ต้องอยู่นานมากๆ  "  


สัจกรรม  " เดินทางมาตั้งไกล  ทำไมมองไม่เห็นโลงศพ ( ว่ะ ) "

ช่างเขียน  "  ก็มีนะแต่ไม่ได้แรงอะไร  เพราะตัวการเราก็รู้ประวัติหมด ใครขายอะไร ใครทำงานที่ไหน ใครผัวใครเมีย  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพี่ก็จะตะโกนว่า "  ฝีมือไอ้อีคู่นี้แหละ "  เอ้อ เรื่องที่เขาคุยว่าจะมีคนแห่มาเป็นล้านนั่น แสดงว่า เขาก็คงจะจ่ายเงินให้คนเป็นล้านไปจริงๆแล้วล่ะนะ  เพราะน้ำเลี้ยงท่อมันใหญ่มาก จึงกล้าพูดยังงั้นได้  ที่นครพนมเขาก็จ่ายหัวละ 2,000 คนแห่มารับเงินเยอะมาก  แต่เอาเข้าจริงขึ้นรถไปนิดเดียว  โถ ก็รับเงินง่ายๆสบายๆไปแล้ว ก็ไม่รู้จะแส่ไปหาความลำบากไปกินไปนอนบนถนนยังไง น้อ  ทุกครั้งที่พี่เห็นขบวนแห่ของพวกแดงบนถนนนี่  รู้สึกโกรธมาก เพราะความวุ่นวายในนครพนมบ้านพี่นี่  มันเกิดจากนักการเมืองอุบาทย์ที่เป็นคนต่างถิ่นที่เข้ามาอาศัยบ้านเมืองของเราทำมาหากิน "
ขจร    "  ดูเหมือนว่า  พี่จะรังเกียจพวกเสื้อแดง นะครับ  "
ช่างเขียน   " พูดโดยสำนึกของคนไทยปรกติทั่วไปที่รักชาติบ้านเมือง  ไม่ได้รังเกียจ  ก็แค่เกลียด !!!  "
                 ช่วงนั้นเอง ก็มีเด็กเสริฟผู้ชายคนนึงเดินมาที่โต๊ะของเรา  แล้วเอียงหน้ามากระซิบ
เด็กเสริฟ  "  พี่ๆ เบาๆหน่อยครับ  รู้สึกแขกโต๊ะถัดไป 3 โต๊ะเขาจะเหล่พี่แล้วนะครับ  "
ขจร  "  ถึงไม่เห็นมีใครเสื้อสีแดง  แต่หน้าตาๆแบบนี้รู้สึกผมจะคุ้นๆนะ  อ้อ  นึกออกแล้ว  มันพวกทอมเสื้อแดงแว่นดำที่เห็นตามข่าวหน้าจอทีวีนี่  "
ช่างเขียน  " แหม พูดยังไม่ขาดคำ ก็หมด " ชิลลิ่ง " เลย เฮ้ย  พี่ว่า  กาแฟหมดแล้ว พวกเรามูฟกันเหอะ  ไปหาร้านใหม่แถวหลังสวนนั่งจิบเบียร์ดีกว่านะ  พี่เป็นเจ้ามือเอง  เอ้า  น้อง เช็คบิลล์  "   


สวัสดีครับ


อยากไปเร็ว  ให้รีบไป   อยากไปไกล  รอไปด้วยกัน

จับตา  สามยาม 

27  ธค.  2553